ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กินเห็ดหลินจือแล้วไม่ต้องไปพบแพทย์ใช่หรือไม่

 ถาม : เมื่อเลือกการบำบัดโรคด้วยหลินจือแล้วไม่ต้องไปพบแพทย์ปัจจุบันใช่หรือไม่?
ตอบ :
การบำบัดด้วยหลินจือนี้เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ทางการแพทย์ทางเลือกนานกว่า2,000ปี ร่วมด้วยวิธีเปลี่ยนแปลงนิสัยการดื่มกินและการใช้ชีวิต หลินจือเป็นราชาสมุนไพรประกอบสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพป้องกันโรค ป้องกันมะเร็ง แต่ไม่สามารถแทนที่การรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันได้เด็ดขาด
ขอแนะนำให้ใช้ทั้งสองแนวทางไปพร้อมกัน คือ ด้านหนึ่งรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ(ขอย้ำว่าผู้เชี่ยวชาญ) ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนแปลงความเคยชินเดิมๆ ในการดื่มกิน การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน โปรดจำไว้ว่า โรคเรื้อรังส่วนมากเกิดจากการดื่มกินที่ไม่ถูกต้องมานานปี
นอกจากนี้ใคร่ขอย้ำเตือนผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งว่า จงปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนแปลงนิสัยการดื่มกินและการดำเนินชีวิตประจำวันให้ถูกต้องเสียใหม่ เพิ่มผักผลไม้ที่อุดมด้วยสารอาหาร 90%  เสริมด้วยการทานสารสกัดจากเห็ดหลินจือ ยิ่งหลากหลายสายพันธ์ยิ่งดี  จึงจะปรับสภาพร่างกายได้อย่างแท้จริงและห่างไกลจากโรคภัย
การดื่มกินและใช้ชีวิตประจำวันให้พยายามรักษาหลักการดังนี้
》เลี่ยงอาหารประเภท ปิ้ง ย่าง ทอด ผัด
》เลื่องเนื้อสัตว์และผลิตภันฑ์นมที่มีสารเร่งการเจริญเติบโต
》เลี่ยงอาหารประเภทแป้งแปรรูป เช่น ขนมปัง บะหมี่ ขนมเค้ก และคุกกี้ เป็นต้น
》เลี่ยงอาหารที่เจือปนสารเคมี
》อยู่ห่างจากเครื่องไฟฟ้าที่มีพลังคลื่นสูง เช่น เตาไมโครเวฟ คอม-พิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ในการรักษาสุขภาพด้วยสารสกัดจากหลินจือนั้น ผมขอแนะนำให้คุณเลือกบริษัทผู้ผลิตที่เป็นต้นตำรับ มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองทีได้มาตรฐาน เพื่อบำรุงสุขภาพ ป้องกันโรค ป้องกันมะเร็ง ชะลอความแก่ขับสารพิษเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองให้แข็งแกร่ง โดยพิจารณาสุขภาพและร่างกายของตนเอง แล้วกำหนดปริมาณการกินในแต่ละวัน (ราววันละ 4-6 แคปซูล)
พึงทราบว่า ยิ่งร่างกายดูดซึมสารอาหารและอินทรีสารจากหลินจือเข้าไปมากเท่าใด ก็จะทำให้ระบบเมแทบอลิซึมของร่างกายดีขึ้นอย่างรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น ระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองก็จะแข็งแรง ร่างกายแก่ช้าและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยการอนุมัติของพระเจ้า.
cr.SAMAN LOH Healthy Consultant (SMLHC)
http://line.me/ti/p/%40lei2723l

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือแด๊กซิน (ดอก) ฉลากสีส้ม

16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือแด๊กซิน (ดอก) ฉลากสีส้ม 1. มีอาการปวดกลาง ศรีษะ ถึงท้ายทอย ร่วมกับอาการมึน - ความดันต่ำ ขาดสารอาหาร ระบบเลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่ดี 2. ปวดขมับ มึนท้ายทอย อาจมีเพียง อาการเดียว หรือทั้ง 2 อาการพร้อมกัน – ความดันสูง 3. มึนทั้งหัว พร้อมกับเวียนหัวด้วย – ความดันสูงมีไขมันในเส้นเลือดสูง 4. มีขี้ตาออกเป็นก้อน - สภาวะตับเสื่อม ทำงานขับพิษได้ไม่ดี 5. น้ำตาไหล เจ็บไหล่ซ้ายมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย - สภาวะปอดเสื่อม ระบบหายใจไม่ดี 6. ปวดไหล่ขวา มีขี้ตาออก – สภาวะปอดเสื่อม 7. น้ำมูกใส ๆ ไหลตลอดประมาณ 3-5 วัน - เป็นภูมิแพ้ , โรคไซนัส, ทางเดินหายใจอักเสบ 8. เสมหะมาก คอแห้งผาก - ระบบหลอดลม , ทางเดินหายใจ มีความสกปรก อุดตัน 9. หายใจถี่มาก ใจสั่น - มีสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ 10. จุกเสียดลิ้นปี่ หน้าอก - กระเพาะอาหาร , ลำไส้เล็กอักเสบ ระบบดูดซึมไม่ดี 11. จุกด้านหลัง,ท้องอืด,อึดอัด - ริดสีดวงทวาร การทำงานของระบบขับถ่ายและลำไส้ใหญ่ไม่ดี 12. ปวดเอว - เป็นโรคไต,ระบบขับถ่ายของเสียไม่ดี 13. ปวดหัวเหน่า - มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากเสื่อม 14. ปว...

กาแฟ Dx-Max แด๊กซิน

 วันนี้จะมาพูดถึงเรื่อง กาแฟ DX-Max 5 IN 1 ที่ผู้ชายหลายต่อหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกาแฟสำหรับท่านชายหรือก่แฟสำหรับนกเขาไม่ขัน ดื่มแล้วทำให้ทนทาน ยืดเวลาแห่งความสุขอะไรประมาณนี้ จริงๆแล้วกาแฟตัวนี้ไม่ใช่กาแฟคนบ้ากามนะครับ คนธรรมดาก็ทานได้ สรรพคุณหลักของกาแฟ Dx-Max คือช่วยเรื่องขยายหลอดเลือดให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น และช่วยเสริมฮอร์โมนเพศชายให้รู้สึกสดชื่นไม่อ่อนเพลีย แต่ผลพลอยได้คือรู้สึกว่าสมรรณภาพทางเพศดีขึ้น(คนที่ดื่มบอก) ลองมาทำความรู้จักกาแฟ แด๊กซิน 5 in 1 กล่องสีสดใสตัวนี้กันนะครับ 1 กล่อง 10 ซอง ไม่แนะนำให้ทานทุกวันเพราะราคาค่อนข้างแพง ซองสวยมากดูแล้วเหนือกว่าซองกาแฟทั่วไป 1 ซองมี 20 กรัม สำหรับผมชอบทานผสมกับกาแฟดำแด๊กซิน 1 ซอง บวกกับ กาแฟ dxmax 3 ช้อนชา ประหยัดดี   ลองมาดูส่วนผสมสำหรับกาแฟเพื่อสุขภาพแด๊กซินตัวนี้นะครับ: 1: ตงกัตอาลี 2: Maca (มาค่า โสมเปรู)  3: Damiana สมุนไพรจาก Mexico 4: Tribulus 5: เห็ดหลินจือ ตงกัตอาลี ...สมุน ไพรชั้นยอดของมาเลเซีย และผ่านการจดสิทธิบัตรที่ปร ...

โกรท ฮอร์โมน (Growth Hormone)

 ฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการหมุนเข็มนาฬิกาชีวิตกลับมา มีชื่อว่าโกรท ฮอร์โมนซึ่งเป็น “Master Hormone” หรือฮอร์โมนหลักของร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกันทุกระบบ และทุกการทำงานของร่างกาย มีหน้าที่ในการสร้างเนื้อเยื่อ และควบคุมการทำงานของเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตในวัยที่ยังโตไม่เต็มที่ และสร้างเนื้อเยื่อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย นอกจากนี้ ยังเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกายของมนุษย์ จะถึงจุดสูงสุดเมื่อมนุษย์ย่างเข้าสู่วัยรุ่น หลังจากคนมีอายุได้ 20 ปี การผลิตโกรท ฮอร์โมนจะลดลงด้วยอัตรา 14% ทุก 10 ปี เมื่อคนเรามีอายุ 60 ปี ระดับของโกรท ฮอร์โมนในร่างกายจะมีประมาณ 25% ระดับที่เคยผลิตได้สูงสุด อาการของโกรท ฮอร์โมน ที่ลดลง สังเกตได้ตั้งแต่ กล้ามเนื้อน้อยลง ไขมันเพิ่มขึ้น ลงพุง กระดูกผุ กระดูกพรุน ไต กับปอด ทำงานไม่ดี ผิวเหี่ยวชราลง ผมหงอก ร่างกายเสื่อมสภาพลง เข้าสู่สภาวะของความแก่ชรา อวัยวะที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการลดลงของระดับโกรท ฮอร์โมน คือ หัวใจ ที่สำคัญที่สุดในร่างกาย เมื่อระดับโกรท ฮอร์โมนต่ำลง คนจะมีอัตราเสี่...