เห็ดหลินจือหรือเห็ดหิมะ คือราชาเห็ดสมุนไพรอันวิเศษที่มีประสิทธิภาพสูงและมีประวัติอันยาวนานกว่า 5,000 ปี ในอดีตจะเสาะหาเห็ดหลินจือได้ตามป่าเขาที่ขึ้นตามธรรมชาติเพื่อนำมาเป็นอาหารบำรุง และบำบัดโรค เพิ่มประสิทธิภาพให้กับภูมิคุ้มกันโรค ใช้ทำเป็นยาอายุวัฒนะที่ให้ประสิทธิภาพสูง ช่วยทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเกิดความสมดุลตามธรรมชาติ โดยเฉพาะระบบสำคัญทั้ง 3 ของร่างกายได้แก่
1.
ระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ลำไส้อักเสบ
ทางเดินอาหารอักเสบเรื้อรัง อาหารเป็นพิษ อหารารพิษตกค้าง ร่างกายมีกรด เบื่ออาหาร
ท้องผูก ริดสีดวง
2.
ระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไข้หวัดเรื้อรัง หอบหืด
ภูมิแพ้ ไอเรื้อรัง ริดสีดวงจมูก โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอด
3.
ระบบไหลเวียนโลหิต เช่น เส้นเลือดอุดตันอันเนื่องมาจากคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง
หลอดเลือดแข็งตัว ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ รอบเดือนไม่ปกติ
4.
โรคอื่นๆ เช่น มะเร็ง
โรคตับอักเสบ โรคไต โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคประสาท โรคไมเกรน นอนไม่หลับ โรคเครียด ลมบ้าหมู
โรคเก๊า นิ่ว อัมพาต อัมพฤกพ์ มีน้ำเหลือง เป็นฝีภายใน-ภายนอก
และภาวะที่มีบุตรยาก
สารสำคัญ
เห็ดหลินจือมีสารสำคัญคือ
“พอลิแซคคาไรด์”
ซึ่งมีโครงสร้างเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ประกอบโมเลกุลของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ออกฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพ
เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข้งแรง สามารถสู้กับโรคภัยไข้เจ็บได้
ความปลอดภัยในการใช้เห็ดหลินจือ
การวิจัย
และทดลองเรื่องพิษวิทยาจากการใช้เห็ดพบว่า ไม่มีพิษใดๆ
จากเห็ดหลินจือแม้ว่าจะรับประทานนานเพียงใดก็ตาม
สำหรับผู้ที่เริ่มรับประทานเห็ดหลินจือใหม่ๆ นั้นอาจจะรู้สึกมึนศรีษะ ปวดเมื่อย
ปวดตามข้อ ง่วงนอน ผิวหนังเกิดอาการคัน มีอาการคล้ายท้องเสียท้องผูก ปัสสาวะบ่อยหรือจะมีผลลักษณะอาการของโรคนั้นๆ
ซึ่งเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับ อันเป็นเรื่องปกติของการบำบัดรักษาด้วยยาแผนโบราณ
เนื่องจากตัวยาได้เข้ามาไปบำบัดรักษาโรค โดยจะเข้าไปชะล้างสิ่งที่เป็นพิษภายในร่างกายให้สลาย
เคลื่อนย้ายและขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย จึงทำให้ร่างกายกำลังเกิดอาการผิดปกติดังกล่าวซึ่งเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังฟื้นตัว
ไม่ใช่ผลข้างเคียง ซึ่งอาการเช่นนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 2-3 วันหรือประมาณ 1 อาทิตย์ก็จะกลับสู่ภาพปกติ
หากท่านมีอาการดังกล่าวไม่ต้องตกใจ ให้รับประทานเห็ดหลินจือต่อไปอย่าหยุด แต่ให้ลดจำนวนลงหากมีอาการมาก
เมื่อมีอาการปกติก็ให้รับประทานตามคำแนะนำต่อไป
ความคิดเห็น