จากหลักฐานรายงานการทำวิจัยที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์พบว่าในเห็ดหลินจือมีสารต่างๆที่เป็นประโยชน์กับร่างกายกว่า 250 ชนิด ซึ่งสารต่างๆเหล่านี้ทำงานประสาน กันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้ร่างกายเกิดความสมดุล เพิ่มพลังในการป้องกันและบำบัดโรค ระบบที่ธรรมชาติมอบให้ก็จะกลับมาทำงานได้ดังเดิม ซึ่งสามารถอธิบายในเชิงเภสัชวิทยาว่า หลินจือ ออกฤทธิ์ต่อ 5 ระบบดังต่อไปนี้
1. ระบบภูมิต้านทาน (Immune System)
ร่างกายคนเรามีระบบภูมิคุ้มกันคอยจัดการกับเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย โดยอาศัยเม็ดเลือดขาว เป็นตัวคอยทำลายเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอม คนปกติควรมีเม็ดเลือดขาวประมาณ 6,000 เซลล์ต่อหนึ่งลูกบาศก์มิลลิเมตร หากน้อยกว่านี้แผลก็จะหายช้า หรือเป็นแผลเรื้อรัง แม้แต่โรคน่ากลัวอย่างมะเร็ง (Cancer) ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีเชื้อโรค แต่เกิดจากเซลล์ของร่างกายเราที่ผิดปกติและกลายพันธุ์ พร้อมกับมีการขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแย่งอาหารจากร่างกาย จนเราอาจขาดสารอาหาร สาเหตุที่ทำให้เซลล์เพี้ยนและกลายพันธุ์ก็เนื่องมาจาก ถูกอนุมูลอิสระดึงประจุไฟฟ้าออกไป ซึ่งโดยสภาพปกติของการดำรงชีพแล้ว เซลล์ผิดปกติเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ถูกเม็ดเลือดขาวกำจัดตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งหากเรารับสารก่อมะเร็งเข้าไปมาก จนเม็ดเลือดขาวกำจัดไม่ทัน ก็จะเกิดมะเร็งและอาจเติบโตลุกลามไปทั่วร่างกาย จนทำให้เสียชีวิต
ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องก็เช่นกัน ไวรัสเอดส์ (HIV: AIDS) จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว จนกระทั่งร่างกายมีเม็ดเลือดขาวในปริมาณที่ต่ำมาก ไม่สามารถจัดการกับเชื้อโรคต่างๆที่คอยฉวยโอกาสเข้ามาสู่ร่างกาย ผู้ป่วยโรคเอดส์ไม่ได้เสียชีวิตด้วยไวรัสเอดส์ แต่เสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่นโรคปอด วัณโรค โรคตับ หรือแม้กระทั่งไข้หวัดเพียงเล็กน้อยก็อาจลุกลามจนเสียชีวิตได้
ยังมีผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่ง คือภูมิแพ้ (Allergy) มีสาเหตุมาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวเช่นกัน เราพบว่าในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ร่างกายมีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ดีคอยเตือนไม่ให้รับสิ่งแปลกปลอม คือสารที่แพ้ กล่าวคือเมื่อร่างกายได้รับสารที่แพ้ เซลล์เม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะแตกและหลั่งสาร ฮีสตามีน ซึ่งมีผลทำให้เกิดอาการแพ้ อาทิเช่น น้ำมูก น้ำตาไหล ผื่นคัน แผลพุพอง บวม เป็นหอบหืด จนถึงช็อค (Sghock) หัวใจวาย หรือเสียชีวิตได้ เห็ดหลินจือมีผลไปเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดขาว ช่วยให้ร่างกายจัดการกับอาการผิดปกติต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีผลดีต่อผู้ที่เป็น ภูมิแพ้ เบาหวานที่แผลหายยาก เป็นหวัดเจ็บคอบ่อย ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็ง ทั้งยังช่วยผู้ป่วยเอดส์ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างคนปกติ นอกจากนี้ เรายังพบอีกว่าในหลินจือ มีสารที่เป็นพิษต่อเซลล์เนื้องอกที่ก่อตัวในร่างกาย ป้องกันไม่ให้มันเติบโต และกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้
2. ระบบหลอดเลือด (Cardiovascular System)
ร่างกายประกอบด้วยหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ และหลอดเลือดฝอย คอยส่งอาหาร สารเคมี ออกซิเจน ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต และนำของเสียขับออกจากร่างกายในรูปของปัสสาวะและเหงื่อ เมื่อเราอายุมากขึ้น หรือได้รับสารอาหารที่มีอันตรายต่อหลอดเลือด เช่น อาหารที่เรารับประทานมีสารอนุมูลอิสระที่เป็นผลพลอยได้จากการเผาผลาญอาหาร หรือจากการหายใจของเราเอง น้ำตาล อินซูลิน บุหรี่ แอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนส่งผลให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น ความสามารถในการนำพาสารอาหารไปเลี้ยงทั่วร่างกายย่อมลดลง และหากมีไขมัน คอเลสเตอรอล หรือเกล็ดเลือด มาเกาะตามผนังเส้นเลือด ก็จะทำให้เส้นเลือดตีบตัน จนไม่สามารถส่งอาหารไปทั่วทุกเซลล์ และของเสียก็ไม่สามารถขับถ่ายออกจากเซลล์ได้ ทำให้เกิดภาวะบกพร่อง เช่น ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะแบบไมเกรน เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ เส้นเลือดในสมองแตก ลุกลามจนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจขาดเลือด โรคกล้ามเนื้อหัวใจโต ไตพิการ เซลล์ตับเสีย สมรรถภาพทางเพศเสื่อมเนื่องจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศไม่ขยายตัว เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดดำ เช่นริดสีดวงทวาร เส้นเลือดขอด แม้แต่ผิวพรรณเองหากมีเลือดมาเลี้ยงไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เหี่ยวย่น ผมร่วง แก่กว่าวัย
เห็ดหลินจือมีผลขยายหลอดเลือด ลดการทำลายของสารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว มีผลลดการเกาะตัวของไขมัน คอเลสเตอรอล หรือเกล็ดเลือด ในหลอดเลือด ช่วยลดการเกิดภาวะดังกล่าวข้างต้น ผลดีที่น่าสนใจคือ การเสริมสมรรถภาพทางเพศ โดยช่วยขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ และผลดีในการชะลอความแก่ ไม่เพียงแต่ผิวพรรณเท่านั้น แต่ชะลอการเสื่อมสภาพของอวัยวะภายในด้วย เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต เป็นต้น
3. ระบบประสาท (Nervous System)
การทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ มีศูนย์สั่งงานมาจากสมองโดยผ่านระบบประสาทซึ่งโยงใยอยู่ทั่วร่างกาย ทำงานโดยสารสื่อประสาท และยังมีหลอดเลือดนำสารอาหาร และออกซิเจนมาเลี้ยง ซึ่งหากเกิดความผิดปกติของสารสื่อประสาท หรือระบบหลอดเลือดที่มาเลี้ยงเกิดตีบตัน ก็ย่อมส่งผลให้การทำงานของสมองบกพร่องเกิดภาวะผิดปกติ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หมดสติ ปลายแขนขาชา กล้ามเนื้อแขนขาลีบ เพราะไม่มีเส้นประสาทมาเลี้ยง อาจเกิดความพิการได้
หลินจือจัดเป็นสารปรับสมดุล (Adaptogen) ที่สามารถลดความเครียดในสมอง และเสริมสร้างสารสื่อประสาทแก่สมอง กระตุ้นระบบประสาท จนถึงสามารถปรับให้การทำงานของสมองกลับคืนภาวะปกติได้ ช่วยลดความพิการที่เกิดจากความเสื่อม และช่วยให้ระบบหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทำงานดีขึ้น ทั้งยังเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมองให้สูงขึ้นถึง 1.5 เท่า เราพบว่าผู้ที่รับประทานหลินจือเป็นประจำ ระดับความเครียดจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณการใช้ยาคลายเครียด ซึ่งส่งผลถึงอัตราการเกิดโรคร้ายที่ตามมาจากความเครียดได้
4. ระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine System)
ร่างกายคนเรามีต่อมอยู่ 2 ประเภท คือต่อมมีท่อ และต่อมไร้ท่อ เพื่อส่งสารเคมีหรือฮอร์โมนออกมาทำหน้าที่ต่างๆ ต่อมมีท่อ คือต่อมที่หลั่งสารผ่านท่อสู่ร่างกาย เช่น ต่อมน้ำลายในช่องปาก จะหลั่งน้ำย่อยออกมา ในขณะเราเคี้ยวอาหาร ต่อมเหงื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และยังมีต่อมอีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญมาก หากผิดปกติจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะผิดปกติต่างๆ นั่นคือ ต่อมไร้ท่อ เป็นต่อมที่หลั่งสารเคมี หรือฮอร์โมนสู่ร่างกายโดยไม่ผ่านท่อ เช่นต่อมไทรอยด์ ซึ่งหลั่งฮอร์โมนไทรอกซิน มีผลช่วยควบคุมระบบเผาผลาญอาหารของร่างกาย หรือต่อมใต้สมองที่หลั่ง Growth Hormone ช่วยเร่งการเจริญเติบโตในเด็ก และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในผู้ใหญ่ หรือฟื้นความเป็นหนุ่มสาวให้แก่เราได้
5. ระบบเผาผลาญอาหาร (Metabolism System)
เป็นระบบใหญ่ที่เป็นสาเหตุของความผิดปกติต่างๆมากมายในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่นโรคหัวใจ ไตวาย ตับแข็ง ไขมันพอกตับ ภาวะขาดสารอาหาร โรคผิวหนัง เป็นต้น สารอาหารหลักที่ร่างกายเราจำเป็นต้องได้รับ คือ กลุ่มโมเลกุลใหญ่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ซึ่งร่างกายต้องได้รับในปริมาณสูง และในอัตราที่สมส่วน และอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มโมเลกุลเล็ก ได้แก่ วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งร่างกายต้องการในปริมาณน้อย แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นขาดไม่ได้ เพราะทำให้ร่างกายขาดสมดุล
หลินจือประกอบด้วยสารอาหารที่ครบและสมดุล นั่นคือมีวิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีนในปริมาณสูงเพียงพอที่จะเสริมภาวะขาดแคลนต่างๆของร่างกาย ทั้งยังมีสารอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยแก้ไขระบบเผาผลาญอาหารให้คืนสู่สภาวะปกติ นอกจากนี้เรายังพบฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สำคัญมากในหลินจือ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้วิตามินดี ทำหน้าที่ดูดจับแคลเซียมเข้ากระดูก ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้และที่สำคัญ หลินจือ มีสารทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ฉะนั้นในผู้ที่รับประทานหลินจือเป็นประจำโอกาสเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายจึงมีน้อยมาก
ที่มา : sanook.com
1. ระบบภูมิต้านทาน (Immune System)
ร่างกายคนเรามีระบบภูมิคุ้มกันคอยจัดการกับเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย โดยอาศัยเม็ดเลือดขาว เป็นตัวคอยทำลายเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอม คนปกติควรมีเม็ดเลือดขาวประมาณ 6,000 เซลล์ต่อหนึ่งลูกบาศก์มิลลิเมตร หากน้อยกว่านี้แผลก็จะหายช้า หรือเป็นแผลเรื้อรัง แม้แต่โรคน่ากลัวอย่างมะเร็ง (Cancer) ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีเชื้อโรค แต่เกิดจากเซลล์ของร่างกายเราที่ผิดปกติและกลายพันธุ์ พร้อมกับมีการขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแย่งอาหารจากร่างกาย จนเราอาจขาดสารอาหาร สาเหตุที่ทำให้เซลล์เพี้ยนและกลายพันธุ์ก็เนื่องมาจาก ถูกอนุมูลอิสระดึงประจุไฟฟ้าออกไป ซึ่งโดยสภาพปกติของการดำรงชีพแล้ว เซลล์ผิดปกติเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ถูกเม็ดเลือดขาวกำจัดตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งหากเรารับสารก่อมะเร็งเข้าไปมาก จนเม็ดเลือดขาวกำจัดไม่ทัน ก็จะเกิดมะเร็งและอาจเติบโตลุกลามไปทั่วร่างกาย จนทำให้เสียชีวิต
ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องก็เช่นกัน ไวรัสเอดส์ (HIV: AIDS) จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว จนกระทั่งร่างกายมีเม็ดเลือดขาวในปริมาณที่ต่ำมาก ไม่สามารถจัดการกับเชื้อโรคต่างๆที่คอยฉวยโอกาสเข้ามาสู่ร่างกาย ผู้ป่วยโรคเอดส์ไม่ได้เสียชีวิตด้วยไวรัสเอดส์ แต่เสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่นโรคปอด วัณโรค โรคตับ หรือแม้กระทั่งไข้หวัดเพียงเล็กน้อยก็อาจลุกลามจนเสียชีวิตได้
ยังมีผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่ง คือภูมิแพ้ (Allergy) มีสาเหตุมาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวเช่นกัน เราพบว่าในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ร่างกายมีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ดีคอยเตือนไม่ให้รับสิ่งแปลกปลอม คือสารที่แพ้ กล่าวคือเมื่อร่างกายได้รับสารที่แพ้ เซลล์เม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะแตกและหลั่งสาร ฮีสตามีน ซึ่งมีผลทำให้เกิดอาการแพ้ อาทิเช่น น้ำมูก น้ำตาไหล ผื่นคัน แผลพุพอง บวม เป็นหอบหืด จนถึงช็อค (Sghock) หัวใจวาย หรือเสียชีวิตได้ เห็ดหลินจือมีผลไปเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดขาว ช่วยให้ร่างกายจัดการกับอาการผิดปกติต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีผลดีต่อผู้ที่เป็น ภูมิแพ้ เบาหวานที่แผลหายยาก เป็นหวัดเจ็บคอบ่อย ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็ง ทั้งยังช่วยผู้ป่วยเอดส์ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างคนปกติ นอกจากนี้ เรายังพบอีกว่าในหลินจือ มีสารที่เป็นพิษต่อเซลล์เนื้องอกที่ก่อตัวในร่างกาย ป้องกันไม่ให้มันเติบโต และกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้
2. ระบบหลอดเลือด (Cardiovascular System)
ร่างกายประกอบด้วยหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ และหลอดเลือดฝอย คอยส่งอาหาร สารเคมี ออกซิเจน ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต และนำของเสียขับออกจากร่างกายในรูปของปัสสาวะและเหงื่อ เมื่อเราอายุมากขึ้น หรือได้รับสารอาหารที่มีอันตรายต่อหลอดเลือด เช่น อาหารที่เรารับประทานมีสารอนุมูลอิสระที่เป็นผลพลอยได้จากการเผาผลาญอาหาร หรือจากการหายใจของเราเอง น้ำตาล อินซูลิน บุหรี่ แอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนส่งผลให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น ความสามารถในการนำพาสารอาหารไปเลี้ยงทั่วร่างกายย่อมลดลง และหากมีไขมัน คอเลสเตอรอล หรือเกล็ดเลือด มาเกาะตามผนังเส้นเลือด ก็จะทำให้เส้นเลือดตีบตัน จนไม่สามารถส่งอาหารไปทั่วทุกเซลล์ และของเสียก็ไม่สามารถขับถ่ายออกจากเซลล์ได้ ทำให้เกิดภาวะบกพร่อง เช่น ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะแบบไมเกรน เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ เส้นเลือดในสมองแตก ลุกลามจนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจขาดเลือด โรคกล้ามเนื้อหัวใจโต ไตพิการ เซลล์ตับเสีย สมรรถภาพทางเพศเสื่อมเนื่องจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศไม่ขยายตัว เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดดำ เช่นริดสีดวงทวาร เส้นเลือดขอด แม้แต่ผิวพรรณเองหากมีเลือดมาเลี้ยงไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เหี่ยวย่น ผมร่วง แก่กว่าวัย
เห็ดหลินจือมีผลขยายหลอดเลือด ลดการทำลายของสารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว มีผลลดการเกาะตัวของไขมัน คอเลสเตอรอล หรือเกล็ดเลือด ในหลอดเลือด ช่วยลดการเกิดภาวะดังกล่าวข้างต้น ผลดีที่น่าสนใจคือ การเสริมสมรรถภาพทางเพศ โดยช่วยขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ และผลดีในการชะลอความแก่ ไม่เพียงแต่ผิวพรรณเท่านั้น แต่ชะลอการเสื่อมสภาพของอวัยวะภายในด้วย เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต เป็นต้น
3. ระบบประสาท (Nervous System)
การทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ มีศูนย์สั่งงานมาจากสมองโดยผ่านระบบประสาทซึ่งโยงใยอยู่ทั่วร่างกาย ทำงานโดยสารสื่อประสาท และยังมีหลอดเลือดนำสารอาหาร และออกซิเจนมาเลี้ยง ซึ่งหากเกิดความผิดปกติของสารสื่อประสาท หรือระบบหลอดเลือดที่มาเลี้ยงเกิดตีบตัน ก็ย่อมส่งผลให้การทำงานของสมองบกพร่องเกิดภาวะผิดปกติ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หมดสติ ปลายแขนขาชา กล้ามเนื้อแขนขาลีบ เพราะไม่มีเส้นประสาทมาเลี้ยง อาจเกิดความพิการได้
หลินจือจัดเป็นสารปรับสมดุล (Adaptogen) ที่สามารถลดความเครียดในสมอง และเสริมสร้างสารสื่อประสาทแก่สมอง กระตุ้นระบบประสาท จนถึงสามารถปรับให้การทำงานของสมองกลับคืนภาวะปกติได้ ช่วยลดความพิการที่เกิดจากความเสื่อม และช่วยให้ระบบหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทำงานดีขึ้น ทั้งยังเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมองให้สูงขึ้นถึง 1.5 เท่า เราพบว่าผู้ที่รับประทานหลินจือเป็นประจำ ระดับความเครียดจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณการใช้ยาคลายเครียด ซึ่งส่งผลถึงอัตราการเกิดโรคร้ายที่ตามมาจากความเครียดได้
4. ระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine System)
ร่างกายคนเรามีต่อมอยู่ 2 ประเภท คือต่อมมีท่อ และต่อมไร้ท่อ เพื่อส่งสารเคมีหรือฮอร์โมนออกมาทำหน้าที่ต่างๆ ต่อมมีท่อ คือต่อมที่หลั่งสารผ่านท่อสู่ร่างกาย เช่น ต่อมน้ำลายในช่องปาก จะหลั่งน้ำย่อยออกมา ในขณะเราเคี้ยวอาหาร ต่อมเหงื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และยังมีต่อมอีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญมาก หากผิดปกติจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะผิดปกติต่างๆ นั่นคือ ต่อมไร้ท่อ เป็นต่อมที่หลั่งสารเคมี หรือฮอร์โมนสู่ร่างกายโดยไม่ผ่านท่อ เช่นต่อมไทรอยด์ ซึ่งหลั่งฮอร์โมนไทรอกซิน มีผลช่วยควบคุมระบบเผาผลาญอาหารของร่างกาย หรือต่อมใต้สมองที่หลั่ง Growth Hormone ช่วยเร่งการเจริญเติบโตในเด็ก และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในผู้ใหญ่ หรือฟื้นความเป็นหนุ่มสาวให้แก่เราได้
5. ระบบเผาผลาญอาหาร (Metabolism System)
เป็นระบบใหญ่ที่เป็นสาเหตุของความผิดปกติต่างๆมากมายในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่นโรคหัวใจ ไตวาย ตับแข็ง ไขมันพอกตับ ภาวะขาดสารอาหาร โรคผิวหนัง เป็นต้น สารอาหารหลักที่ร่างกายเราจำเป็นต้องได้รับ คือ กลุ่มโมเลกุลใหญ่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ซึ่งร่างกายต้องได้รับในปริมาณสูง และในอัตราที่สมส่วน และอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มโมเลกุลเล็ก ได้แก่ วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งร่างกายต้องการในปริมาณน้อย แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นขาดไม่ได้ เพราะทำให้ร่างกายขาดสมดุล
หลินจือประกอบด้วยสารอาหารที่ครบและสมดุล นั่นคือมีวิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีนในปริมาณสูงเพียงพอที่จะเสริมภาวะขาดแคลนต่างๆของร่างกาย ทั้งยังมีสารอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยแก้ไขระบบเผาผลาญอาหารให้คืนสู่สภาวะปกติ นอกจากนี้เรายังพบฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สำคัญมากในหลินจือ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้วิตามินดี ทำหน้าที่ดูดจับแคลเซียมเข้ากระดูก ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้และที่สำคัญ หลินจือ มีสารทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ฉะนั้นในผู้ที่รับประทานหลินจือเป็นประจำโอกาสเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายจึงมีน้อยมาก
ที่มา : sanook.com
ความคิดเห็น