ดังนั้นผู้รับประทานหลินจือ จึงไม่ควรตกใจและต้องทำความเข้าใจว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นว่ามิใช่อาการแพ้หรือผลข้างเคียง ( Side Effect) ของหลินจือ ไม่ควรหยุดรับประทาน แต่ควรที่จะดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยให้กระบวนการล้างพิษมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญสำหรับผู้ที่ทานยาแผนปัจจุบันอยู่ไม่ควรหยุดยาของแพทย์ แต่ควรรับประทานหลินจือหลังจากทานยาแผนปัจจุบันไปแล้วประมาณ 1 ช.ม ซึ่งจะเป็นผลดีต่อร่างกายในการบำบัดโรค
ตามแนวทางทฤษฎี “การแพทย์ผสมผสาน"16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือ (ดอก)
1. มีอาการปวดกลาง ศรีษะ ถึงท้ายทอย ร่วมกับอาการมึน - ความดันต่ำ ขาดสารอาหาร ระบบเลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่ดี
2. ปวดขมับ มึนท้ายทอย อาจมีเพียง อาการเดียว หรือทั้ง 2 อาการพร้อมกัน – ความดันสูง
3. มึนทั้งหัว พร้อมกับวิงเวียนศีรษะด้วย – ความดันสูงมีไขมันในเส้นเลือดสูง
4. มีขี้ตาออกเป็นก้อน - สภาวะตับเสื่อม ทำงานขับพิษได้ไม่ดี
5. น้ำตาไหล เจ็บไหล่ซ้ายมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย - สภาวะปอดเสื่อม ระบบหายใจไม่ดี
6. ปวดไหล่ขวา มีขี้ตาออก – สภาวะปอดเสื่อม
7. น้ำมูกใสๆไหลตลอดประมาณ 3-5 วัน - เป็นภูมิแพ้ , โรคไซนัส, ทางเดินหายใจอักเสบ
8. เสมหะมาก คอแห้งผาก - ระบบหลอดลม , ทางเดินหายใจ มีความสกปรก อุดตัน
9. หายใจถี่มาก ใจสั่น - มีสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
10. จุกเสียดลิ้นปี่ หน้าอก - กระเพาะอาหาร , ลำไส้เล็กอักเสบ ระบบดูดซึมไม่ดี
11. จุกด้านหลัง,ท้องอืด,อึดอัด - ริดสีดวงทวาร การทำงานของระบบขับถ่ายและลำไส้ใหญ่ไม่ดี
12. ปวดเอว - เป็นโรคไต,ระบบขับถ่ายของเสียไม่ดี
13. ปวดหัวเหน่า - มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากเสื่อม
14. ปวดสะโพก เข่า ข้อเท้า อย่างมาก - สภาวะกรดยูริคสูง โรคเก๊าท์
15. ปวดข้อส่วนบน หรือข้อนิ้ว – โรครูมาตอยท์
16. ปวดร้อนร่างกายท่อนบน ร้อนตัววูบวาบ – ระบบหมุนเวียนของโลหิตไม่ดีบทความ
โดย: เภสัชกร นิติ โตชนันท์
ความคิดเห็น