ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เห็ดหลินจือกับโรคตับ


เห็ดหลินจือกับโรคตับ
โรคตับ
โรคตับเป็นอีกโรคหนึ่งที่อันตรายต่อร่างกายและชีวิต จึงควรให้ความใส่ใจและความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะโรคตับเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง โดยมีภาวะที่มีการอักเสบและการทำลายของเซลล์ตับ ส่งผลให้การทำงานของตับผิดปกติ และในที่นี้เราจะกล่าวถึงโรคตับอักเสบชนิดเฉียบพลันที่พบบ่อยคือ โรคไวรัสตับอักเสบเอ และโรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบที่เป็นไม่นานก็หายเป็นปกติ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการ 2-3 สัปดาห์และมักจะไม่เกิน 2 เดือน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายขาด แต่มีบางส่วนเป็นตับอักเสบเรื้อรัง และบางรายรุนแรงถึงกับเสียชีวิต
 โรคตับอักเสบเอ
โรคตับอักเสบเอ เกิดมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ซึ่งติดต่อมาจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มนำ้ที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ การสัมผัสอุจจาระของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอหรือการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ ไม่สะอาด ทั้งนี้เชื้อนี้จะออกมากับอุจจาระของผู้ป่วยตั้งแต่ในระยะ 2 สัปดาห์ และเชื้อไวรัสตัวนี้ยังสามารถคงสภาพอยู่ได้นานในสภาพแวดล้อมทั่วไป เราจึงมักจะพบการระบาดของโรคชนิดนี้ในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น หอพัก โรงเรียน ค่ายทหาร เป็นต้น
หลังจากได้รับเชื้อประมาณ 4 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย มีไข้ตำ่ มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดท้องด้านชายโครงขวา ซึ่งในผู้ใหญ่จะมีอาการหนักกว่าเด็ก นอกจากนั้นยังมีอาการตาเหลือง และสำหรับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยจะมีภาวะเสี่ยงค่อนข้างสูง
โรคไวรัสตับอักเสบบี
โรคไวรัสตับอักเสบบี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีพบบ่อยในช่วงอายุ 20-45 ปี และสามารถพบเชื้อนี้ได้จากเลือดและสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เช่น นำ้อสุจิ นำ้ในช่องคลอด นำ้ลาย ดังนั้นแล้วคุณอาจจะสามารถติดเชื้อนี้ได้หลายทางเช่น ทางเพศสัมพันธุ์ จากแม่สู่ลูกระหว่างคลอดบุตร การสัมผัสเลือดที่มีเชื้อนี้จากการให้เลือด และจากบาดแผลหรือของมีคม เช่น การใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน การฝังเข็ม การสัก การเจาะหูที่ไม่สะอาดและการใช้ใบมีดโกนร่วมกัน หรือไม่สะอาด
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะมีอาการอ่อนเพลียเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยตามตัว มีไข้ อาจปวดท้องบริเวณชายโครงขวา ปัสสวะมีสีเหลืองเข้มผิดปกติ เหล่านี้จะเป็นอาการขั้นแรกๆ และบางรายอาจมีอาการปวดตามบริเวณข้อ จากนั้นอาการไข้จะเริ่มหายไป และผู้ป่วยจะมีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง จะค่อยๆหายไป จะเริ่มกลับมาค่อยๆรับประทานอาหารได้มากขึ้น และเริ่มฟื้นตัว โดยผู้ป่วยมักจะมีอาการประมาณ 2-3 เดือน
เห็ดหลินจือกับโรคตับ
ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก หน้าที่ๆสำคัญคือ เป็นแหล่งเก็บพลังงาน และเป็นด่านแรกที่ทำลายสารพิษที่ร่างกายได้รับจากอาหารหรือยาที่รับประทาน เห็ดหลินจือบำรุงเซลล์ตับ ไม่เป็นพิษต่อตับ ช่วยลดความเสี่ยงของร่างกายหรือตับจากไวรัสตับอักเสบ จนถึงมะเร็งตับ ทำให้ร่างกายแข็งแรงมีพลัง เพราะตับจะเก็บพลังงานในรูปไกลโคเจน (Glycogen) ได้มากขึ้น และเมื่อปริมาณนำ้ตาลในเลือดลดลง หรือร่างกายขาดสารอาหารตับจะเปลี่ยไกลโคเจนเป็นกลูโคส ซึ่งเป็นนำ้ตาลที่อยู่ในอาหารทั่วไป พบมากในผักและผลไม้สุก เป็นนำ้ตาลที่สลายให้พลังงานมากที่สุดในสิ่งมีชีวิต ซึ่งในการเปลี่ยนไกลโคเจนเป็นกลูโคสนั้นก็เพื่อให้พลังงานร่างกาย
หลินจือช่วยบำรุงตับ ฟื้นฟูการทำงานของตับ กระตุ้นการเกิดเซลล์ใหม่แทนเซลล์ที่ตายไป และเห็ดหลินจือช่วยปรับภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำงานผิดเพี้ยน และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เห็ดหลินจือเป็นแอนตี้ออกซิแดนซ์ที่ีดี สามารถขจัดอนุมูลอิสระเห็ดหลินจือมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาโรคตับแข็งได้ ก็เพราะเห็ดหลินจือช่วยทำให้ใยแผลเป็นที่ตับคลายตัว ไม่รัดเส้นเลือดและเนื้อเยื่อที่ตับ
มีการศึกษาพบว่าภายในเห็ดหลินจือมีสารสำคัญทางยาที่ใช้รักษาโรคตับ คือสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) มีสรรพคุณทางยาในการปรับปรุงการทำงานของตับ ปกป้องตับจากสารพิษ โดยแสดงฤทธิ์ยับยั้งสารพิษไม่ทำให้ทำลายเซลล์ตับ รวมถึงช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานดีขึ้น
นอกจากนั้นกลุ่มสารไตรเทอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ในเห็ดหลินจือ มีฤทธิ์ในการปกป้อง บำรุง และรักษาโรคตับ มีกรดกาโนเดอริก (Ganoderic acid) กรดลูซิเดนิก (Luci denic acid) พบว่ามีสารต่อต้านสารพิษที่มีต่อตับ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในตับ กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว
สารออร์แกนิกเยอร์มาเนีีย (Organic Germanium) ในเห็ดหลินจือ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยรักษามะเร็งที่ตับได้ กลุ่มสารที่กล่าวมาล้วนเป็นตัวรักษาที่ดีทีเดียว เช่นเดียวกับตับอักเสบเฉียบพลัน ตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง ดังที่หมอจีนโบราญนั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “หลินจือ” เป็นสมุนไพรที่มีความโดดเด่นในการ “บำรุงตับ” เมื่อบำรุงตับให้แข็งแรงแล้ว ย่อมแน่นอนว่าอาการที่ตับจะฟื้นตัวและมีโอกาศหายเป็นปกติ
(Cr. หนังสือ เห็ดหลินโอสถราชา ยาบำรุงตำรับฮ่องเต้)
สนใจสั่งซื้อ เห็ดหลินจือแดงสกัด ของแท้ จากแด๊กซิน คลิกที่นี่>>> www.daxinshopping.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือแด๊กซิน (ดอก) ฉลากสีส้ม

16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือแด๊กซิน (ดอก) ฉลากสีส้ม 1. มีอาการปวดกลาง ศรีษะ ถึงท้ายทอย ร่วมกับอาการมึน - ความดันต่ำ ขาดสารอาหาร ระบบเลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่ดี 2. ปวดขมับ มึนท้ายทอย อาจมีเพียง อาการเดียว หรือทั้ง 2 อาการพร้อมกัน – ความดันสูง 3. มึนทั้งหัว พร้อมกับเวียนหัวด้วย – ความดันสูงมีไขมันในเส้นเลือดสูง 4. มีขี้ตาออกเป็นก้อน - สภาวะตับเสื่อม ทำงานขับพิษได้ไม่ดี 5. น้ำตาไหล เจ็บไหล่ซ้ายมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย - สภาวะปอดเสื่อม ระบบหายใจไม่ดี 6. ปวดไหล่ขวา มีขี้ตาออก – สภาวะปอดเสื่อม 7. น้ำมูกใส ๆ ไหลตลอดประมาณ 3-5 วัน - เป็นภูมิแพ้ , โรคไซนัส, ทางเดินหายใจอักเสบ 8. เสมหะมาก คอแห้งผาก - ระบบหลอดลม , ทางเดินหายใจ มีความสกปรก อุดตัน 9. หายใจถี่มาก ใจสั่น - มีสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ 10. จุกเสียดลิ้นปี่ หน้าอก - กระเพาะอาหาร , ลำไส้เล็กอักเสบ ระบบดูดซึมไม่ดี 11. จุกด้านหลัง,ท้องอืด,อึดอัด - ริดสีดวงทวาร การทำงานของระบบขับถ่ายและลำไส้ใหญ่ไม่ดี 12. ปวดเอว - เป็นโรคไต,ระบบขับถ่ายของเสียไม่ดี 13. ปวดหัวเหน่า - มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากเสื่อม 14. ปว...

กาแฟ Dx-Max แด๊กซิน

 วันนี้จะมาพูดถึงเรื่อง กาแฟ DX-Max 5 IN 1 ที่ผู้ชายหลายต่อหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกาแฟสำหรับท่านชายหรือก่แฟสำหรับนกเขาไม่ขัน ดื่มแล้วทำให้ทนทาน ยืดเวลาแห่งความสุขอะไรประมาณนี้ จริงๆแล้วกาแฟตัวนี้ไม่ใช่กาแฟคนบ้ากามนะครับ คนธรรมดาก็ทานได้ สรรพคุณหลักของกาแฟ Dx-Max คือช่วยเรื่องขยายหลอดเลือดให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น และช่วยเสริมฮอร์โมนเพศชายให้รู้สึกสดชื่นไม่อ่อนเพลีย แต่ผลพลอยได้คือรู้สึกว่าสมรรณภาพทางเพศดีขึ้น(คนที่ดื่มบอก) ลองมาทำความรู้จักกาแฟ แด๊กซิน 5 in 1 กล่องสีสดใสตัวนี้กันนะครับ 1 กล่อง 10 ซอง ไม่แนะนำให้ทานทุกวันเพราะราคาค่อนข้างแพง ซองสวยมากดูแล้วเหนือกว่าซองกาแฟทั่วไป 1 ซองมี 20 กรัม สำหรับผมชอบทานผสมกับกาแฟดำแด๊กซิน 1 ซอง บวกกับ กาแฟ dxmax 3 ช้อนชา ประหยัดดี   ลองมาดูส่วนผสมสำหรับกาแฟเพื่อสุขภาพแด๊กซินตัวนี้นะครับ: 1: ตงกัตอาลี 2: Maca (มาค่า โสมเปรู)  3: Damiana สมุนไพรจาก Mexico 4: Tribulus 5: เห็ดหลินจือ ตงกัตอาลี ...สมุน ไพรชั้นยอดของมาเลเซีย และผ่านการจดสิทธิบัตรที่ปร ...

โกรท ฮอร์โมน (Growth Hormone)

 ฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการหมุนเข็มนาฬิกาชีวิตกลับมา มีชื่อว่าโกรท ฮอร์โมนซึ่งเป็น “Master Hormone” หรือฮอร์โมนหลักของร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกันทุกระบบ และทุกการทำงานของร่างกาย มีหน้าที่ในการสร้างเนื้อเยื่อ และควบคุมการทำงานของเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตในวัยที่ยังโตไม่เต็มที่ และสร้างเนื้อเยื่อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย นอกจากนี้ ยังเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกายของมนุษย์ จะถึงจุดสูงสุดเมื่อมนุษย์ย่างเข้าสู่วัยรุ่น หลังจากคนมีอายุได้ 20 ปี การผลิตโกรท ฮอร์โมนจะลดลงด้วยอัตรา 14% ทุก 10 ปี เมื่อคนเรามีอายุ 60 ปี ระดับของโกรท ฮอร์โมนในร่างกายจะมีประมาณ 25% ระดับที่เคยผลิตได้สูงสุด อาการของโกรท ฮอร์โมน ที่ลดลง สังเกตได้ตั้งแต่ กล้ามเนื้อน้อยลง ไขมันเพิ่มขึ้น ลงพุง กระดูกผุ กระดูกพรุน ไต กับปอด ทำงานไม่ดี ผิวเหี่ยวชราลง ผมหงอก ร่างกายเสื่อมสภาพลง เข้าสู่สภาวะของความแก่ชรา อวัยวะที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการลดลงของระดับโกรท ฮอร์โมน คือ หัวใจ ที่สำคัญที่สุดในร่างกาย เมื่อระดับโกรท ฮอร์โมนต่ำลง คนจะมีอัตราเสี่...