ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ขนาดและวิธีใช้ เห็ดหลินจือ

ขนาดและวิธีใช้
 ตามตำรายาแผนโบราณ  ไม่สนับสุนนให้กินเห็ดหลินจือเป็นอาหาร เพราะเห็ดหลินจือมีลักษณะเนื้อเหนียวแข็ง เคี้ยวไม่ได้ เหมือนเปลือกไม้  การบริโภคควรเพื่อเป็นยาเท่านั้น   โดยกำหนดให้กินเห็ดแห้ง วันละ    4 -15  กรัม   กินตอนท้องว่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการว่าจะใช้เพื่อบำรุงร่างกาย   หรือจะใช้เพื่อรักษาโรค
วิธีกินมีด้วยกัน 3 วิธี
1.  แบบยาต้มเอาน้ำมากินเป็นยา  หรือดองเหล้าเอาน้ำมากินเป็นยา
2.   แบบยาสกัดบรรจุแคปซูล  ใช้วิธีสมัยใหม่สกัดเอาตัวยาออกมาแล้วนำไปบรรจุแคปซูล
3.   แบบยาบดบรรจุแคปซูล  ใช้วิธีเอาเห็ดไปบดให้ละเอียดแล้วนำไปบรรจุแคปซูล
ใน 3 ข้อนี้  การกินเห็ดหลินจือข้อที่ให้ประโยชน์ทางยาน้อยที่สุดคือ ข้อ 3  แบบยาบดบรรจุแคปซูล  ในข้อนี้ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ทางยาน้อยมาก   เพราะในกระเพาะอาหารของคนเราไม่สามารถสกัดเอาตัวยาออกมาได้ทั้งหมด   เหมือนกับกินขี้เลื่อย  หรือกินไม้   ซึ่งในส่วนนี้หมอจีนโบราณก็ไม่สนับสนุนให้ใช้   ชาวจีนโบราณจะใช้วิธีต้ม  หรือดองเหล้าเท่านั้น      
สำหรับแบบยาสกัดชนิดแคปซูล    ที่ได้มาตรฐานใน  1  แคปซูล  ควรมีสารสกัดที่ได้มาจากเห็ดแห้ง  1  กรัม  เพื่อให้สะดวกในการคำนวณใช้ ดังนี้
1.  บำรุงร่างกาย   ครั้งละ 2  แคปซูล  วันละ  2  3 ครั้ง  ก่อนอาหาร
2.  ป่วยเล็กน้อย    ครั้งละ 3  แคปซูล  วันละ  2  3 ครั้ง  ก่อนอาหาร
3.  ป่วยมาก         ครั้งละ 5  แคปซูล  วันละ  2  3 ครั้ง  ก่อนอาหาร
กรณีป่วยหนักมาก เช่นเป็นโรคมะเร็ง   จากประสบการณ์ผู้เขียนเคยเห็นผู้ป่วยปรับขนาดการกินมากกว่าที่กำหนดโดยไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด  เช่นวันละ 20-30 แคปซูล   หรือ 1 แคปซูลต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมก็เคยเห็นมา   และพบว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้นอย่างผิดตา   แต่ต้องเป็นยาสกัดเท่านั้น   
ที่มา:http://www.lingzhibook.com/cnnbook/No.24.htm
สนใจสั่งซื้อ เห็ดหลินจือแดงสกัด ของแท้ จากแด๊กซิน คลิกที่นี่>>> www.daxinshopping.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือแด๊กซิน (ดอก) ฉลากสีส้ม

16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือแด๊กซิน (ดอก) ฉลากสีส้ม 1. มีอาการปวดกลาง ศรีษะ ถึงท้ายทอย ร่วมกับอาการมึน - ความดันต่ำ ขาดสารอาหาร ระบบเลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่ดี 2. ปวดขมับ มึนท้ายทอย อาจมีเพียง อาการเดียว หรือทั้ง 2 อาการพร้อมกัน – ความดันสูง 3. มึนทั้งหัว พร้อมกับเวียนหัวด้วย – ความดันสูงมีไขมันในเส้นเลือดสูง 4. มีขี้ตาออกเป็นก้อน - สภาวะตับเสื่อม ทำงานขับพิษได้ไม่ดี 5. น้ำตาไหล เจ็บไหล่ซ้ายมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย - สภาวะปอดเสื่อม ระบบหายใจไม่ดี 6. ปวดไหล่ขวา มีขี้ตาออก – สภาวะปอดเสื่อม 7. น้ำมูกใส ๆ ไหลตลอดประมาณ 3-5 วัน - เป็นภูมิแพ้ , โรคไซนัส, ทางเดินหายใจอักเสบ 8. เสมหะมาก คอแห้งผาก - ระบบหลอดลม , ทางเดินหายใจ มีความสกปรก อุดตัน 9. หายใจถี่มาก ใจสั่น - มีสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ 10. จุกเสียดลิ้นปี่ หน้าอก - กระเพาะอาหาร , ลำไส้เล็กอักเสบ ระบบดูดซึมไม่ดี 11. จุกด้านหลัง,ท้องอืด,อึดอัด - ริดสีดวงทวาร การทำงานของระบบขับถ่ายและลำไส้ใหญ่ไม่ดี 12. ปวดเอว - เป็นโรคไต,ระบบขับถ่ายของเสียไม่ดี 13. ปวดหัวเหน่า - มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากเสื่อม 14. ปว...

กาแฟ Dx-Max แด๊กซิน

 วันนี้จะมาพูดถึงเรื่อง กาแฟ DX-Max 5 IN 1 ที่ผู้ชายหลายต่อหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกาแฟสำหรับท่านชายหรือก่แฟสำหรับนกเขาไม่ขัน ดื่มแล้วทำให้ทนทาน ยืดเวลาแห่งความสุขอะไรประมาณนี้ จริงๆแล้วกาแฟตัวนี้ไม่ใช่กาแฟคนบ้ากามนะครับ คนธรรมดาก็ทานได้ สรรพคุณหลักของกาแฟ Dx-Max คือช่วยเรื่องขยายหลอดเลือดให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น และช่วยเสริมฮอร์โมนเพศชายให้รู้สึกสดชื่นไม่อ่อนเพลีย แต่ผลพลอยได้คือรู้สึกว่าสมรรณภาพทางเพศดีขึ้น(คนที่ดื่มบอก) ลองมาทำความรู้จักกาแฟ แด๊กซิน 5 in 1 กล่องสีสดใสตัวนี้กันนะครับ 1 กล่อง 10 ซอง ไม่แนะนำให้ทานทุกวันเพราะราคาค่อนข้างแพง ซองสวยมากดูแล้วเหนือกว่าซองกาแฟทั่วไป 1 ซองมี 20 กรัม สำหรับผมชอบทานผสมกับกาแฟดำแด๊กซิน 1 ซอง บวกกับ กาแฟ dxmax 3 ช้อนชา ประหยัดดี   ลองมาดูส่วนผสมสำหรับกาแฟเพื่อสุขภาพแด๊กซินตัวนี้นะครับ: 1: ตงกัตอาลี 2: Maca (มาค่า โสมเปรู)  3: Damiana สมุนไพรจาก Mexico 4: Tribulus 5: เห็ดหลินจือ ตงกัตอาลี ...สมุน ไพรชั้นยอดของมาเลเซีย และผ่านการจดสิทธิบัตรที่ปร ...

โกรท ฮอร์โมน (Growth Hormone)

 ฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการหมุนเข็มนาฬิกาชีวิตกลับมา มีชื่อว่าโกรท ฮอร์โมนซึ่งเป็น “Master Hormone” หรือฮอร์โมนหลักของร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกันทุกระบบ และทุกการทำงานของร่างกาย มีหน้าที่ในการสร้างเนื้อเยื่อ และควบคุมการทำงานของเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตในวัยที่ยังโตไม่เต็มที่ และสร้างเนื้อเยื่อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย นอกจากนี้ ยังเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกายของมนุษย์ จะถึงจุดสูงสุดเมื่อมนุษย์ย่างเข้าสู่วัยรุ่น หลังจากคนมีอายุได้ 20 ปี การผลิตโกรท ฮอร์โมนจะลดลงด้วยอัตรา 14% ทุก 10 ปี เมื่อคนเรามีอายุ 60 ปี ระดับของโกรท ฮอร์โมนในร่างกายจะมีประมาณ 25% ระดับที่เคยผลิตได้สูงสุด อาการของโกรท ฮอร์โมน ที่ลดลง สังเกตได้ตั้งแต่ กล้ามเนื้อน้อยลง ไขมันเพิ่มขึ้น ลงพุง กระดูกผุ กระดูกพรุน ไต กับปอด ทำงานไม่ดี ผิวเหี่ยวชราลง ผมหงอก ร่างกายเสื่อมสภาพลง เข้าสู่สภาวะของความแก่ชรา อวัยวะที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการลดลงของระดับโกรท ฮอร์โมน คือ หัวใจ ที่สำคัญที่สุดในร่างกาย เมื่อระดับโกรท ฮอร์โมนต่ำลง คนจะมีอัตราเสี่...